top of page

ภาวะ "ต่อมหมวกไตล้า" คืออะไร? อันตรายมั้ย? ต้องรักษาหรือแก้ไขอย่างไร?

อัปเดตเมื่อ 5 มิ.ย. 2565


ภาวะต่อมหมวกไตล้า หรือ Adrenal Fatigue เป็นภาวะที่ร่างกายเสพติดความเครียด แบบไม่รู้ตัว จนความเครียดที่มีสูงนั้นไปรบกวนการทำงานของต่อมหมวกไต ส่งผลให้ฮอร์โมนต่อมหมวกไตไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดอาการที่กระทบชีวิตประจำวันดังนี้
  • ขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า

  • ง่วงแต่นอนไม่หลับ

  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เครียด ซึมเศร้า

  • มีอาการวิงเวียนศีรษะเวลาลุก – นั่ง

  • อยากทานของหวานและของเค็ม

  • รู้สึกดีขึ้นทันทีเมื่อได้กินน้ำตาล

  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ

  • เป็นภูมิแพ้กำเริบบ่อยๆ ผิวแห้งและแพ้ง่าย

  • ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก

  • คุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่น้ำหนักไม่ลด

ฮอร์โมนสำคัญของต่อมหมวกไต ทำหน้าที่ปรับสมดุลความเครียด

ภาวะต่อมหมวกไตล้า ส่วนใหญ่มีเหตุสำคัญมาจากฮอร์โมน 2 ตัวนี้อยู่ระดับไม่สมดุล ซึ่งก็คือ คอร์ติซอล (Cortisol) และ ดีเอชอีเอ (Dyhydroepiandrosterone – DHEA) หรือที่เรียกว่า "ฮอร์โมนความเครียด"

  • Cortisol คือ ฮอร์โมนความเครียด (Stress Hormone) ปกติร่างกายจะหลั่งออกมาปริมาณมากที่สุดในตอนเช้า ช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังต่อสู้ในวันใหม่ของทุกวัน และจะลดลงเหลือเพียง 10% ในช่วงเย็น แต่หากเรามีความเครียดสะสมเรื้อรัง พักผ่อนไม่พอ หรือออกกำลังกายเกินพอดี ระดับ Cortisol ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มส่งผลเสียต่อร่างกาย เนื่องจากฮอร์โมนตัวนี้มีฤทธิ์ในการสลายและทำลายล้าง (Catabolic Hormone) โดยเฉพาะสลายกล้ามเนื้อ และคอลาเจนใต้ผิว ทำให้ร่างกายเสื่อมและแก่เร็ว แต่ในทางกลับกันถ้ามี Cortisol น้อยเกินไปจะทำให้ไม่มีแรงลุกขึ้นจากที่นอนตอนเช้า ขาดความกระตือรือร้น และอ่อนเพลียตอนกลางวัน

  • DHEA คือ ฮอร์โมนต้านความเครียด (Anti – Stress Hormones) ที่มีฤทธิ์ในการเสริมสร้าง (Anabolic Hormone) ต้านฤทธิ์ของ Cortisol เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่นช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย กระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน และชะลอความเสื่อมของร่างกาย (Delay Aging) อีกทั้งยังเป็นฮอร์โมนตั้งต้นของทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย (Pre – Sex Hormones)

การปรับพฤติกรรม เพื่อรักษาภาวะต่อมหมวกไตล้า
  • นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง ควรเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม

  • รับประทานอาหารเช้าก่อน 10.00 น. (หลัง 10.00 น. ระดับ Cortisol จะลดลง ทำให้ยิ่งอ่อนเพลีย Cortisol จะทำงานดีขึ้นเมื่อมีน้ำตาลในเลือดเพียงพอ)

  • แบ่งการรับประทานอาหารเป็น มื้อเล็ก ๆ และบ่อย ๆ แทนการทานอาหารมื้อหลัก ๆ เพียง 1 – 2 มื้อ

  • ออกกำลังกายแบบหนักปานกลาง (Moderate Intensity Exercise) ไม่ออกกำลังกายหนักจนเกินไป เพราะการออกกำลังกายที่หนักเกินไปจะส่งผลให้ต่อมหมวกไตล้ามากยิ่งขึ้น

  • หาวิธีคลายความเครียด เช่น หางานอดิเรกที่สบายใจทำ เดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น

  • อาหารเสริมและสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยลดอาการต่อมหมวกไตล้าได้ เช่น Ashwagandha (โสมอินเดีย), L-theanine, Phosphatidylserine, วิตามิน C วิตามิน B3 วิตามิน B5 วิตามิน B6 เป็นต้น

หากไม่สามารถฝืนพฤติกรรมที่เคยชิน พร้อมความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ด้วยตัวเอง การปรึกษาแพทย์หรือผู้ชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำอย่างตรงจุด เป็นทางออกที่ดีกว่าการพยายามด้วยตัวเองคนเดียว
Prattana Nitijessadawong

ปรารถนา นิธิเจษฎาวงศ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารบำบัดโรค
นักกำหนดอาหารวิชาชีพ (ก.อช. 0961)

ปรึกษาภาวะต่อมหมวกไตล้า

30 นาที







コメント


ติดต่อเรา

ขอบคุณที่สนใจติดต่อเรา

Address

594/10  ถนนบรมราชชนนี  แขวงศาลาธรรมสพน์  เขตทวีวัฒนา

กรุงเทพฯ 10170

Phone

+668 8951 9442

Follow

  • Facebook
  • icon_line_trans
  • Instagram

© 2023 by Heather Pearson. Proudly created with Wix.com

bottom of page